วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ทริปหนีน้ำสู่อ้อมกอดขุนเขาและเมฆหมอก ลำพูน-เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน [BMW F800GS]

ตามธรรมเนียม (ส่วนตัว) ของทุกปี ที่หน้าหนาว ต้องมีทริปยาวๆ อย่างน้อย 1 ครั้ง และแน่นอนก็ต้องวิ่งหาขุนเขาเข้าสู่อ้อมกอดของความหนาวเย็นและเมฆหมอกแห่งความสดชื่น ซึ่งก็หนีไม่พ้นภาคเหนือหรือไม่ก็อีสานตอนบน และก็เช่นเคย...นานๆ ทีจะขี่ขึ้นไปไกลขนาดนี้ก็ต้องวางแผนกันหน่อย ว่าทำอย่างไรเราถึงจะได้พบปะเพื่อนฝูงที่คิดถึงและอยากเจอให้ได้มากที่สุด

แผนปีนี้เริ่มจาก กลุ่มเพื่อนพิษณุโลก ซึ่งก็มีทริปประจำปีอยู่แล้วเช่นกัน บอกกำหนดการมาว่าจะขึ้นไปวันที่  3-6 แต่ตัวเองต้องทำธุระในวันที่ 6 นั่นหมายถึงต้องกลับก่อน จึงขอขึ้นไปก่อนตั้งแต่วันที่ 1-5 โดยคืนแรกเรานอนกันที่ลำพูน ต่อด้วยเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน วันสุดท้ายยิงยาวจากแม่ฮ่องสอนกลับกรุงเทพ วันสุดท้ายนี่หล่ะหนักใจ เพราะวันรุ่งขึ้นต้องไปต่างจังหวัด (ด้วยรถยนต์) แต่เช้าตรู่ ไงๆ...ก็ สู้โว้ยยยยย ^^ ว่าแล้วไปกันเลย







สายกรุงเทพออกเดินทาง 7 โมง มีน้าบ๊วยและพี่ปอให้เกียรติเป็นผู้ร่วมทางไปกลับในทริปนี้
มุ่งหน้าไปปากช่อง เพื่อไปรับน้องนาง เพื่อจะขี่ขึ้นลำพูนด้วยกัน



พี่ปอ กับลูกชายคันใหม่ ถอยมาสดๆ ร้อนๆ ก็นำมาเปิดซิงทริปนี้เป็นทริปแรก



หลังจากแวะรับน้องนาง ก็ยิงยาวแวะทานข้าวกลางวันที่พิษณุโลก



น้องหมูกับพี่โอม เจ้าถิ่นพิษณุโลกแวะมาต้อนรับ และจะขี่ตามขึ้นไปสมทบที่เชียงใหม่ในวันที่ 3



เปรียบเทียบบั้นท้าย ... ใครหล่อกว่ากัน?



จากพิษณุโลก วิ่งเข้าอุตรดิตถ์ จอดพักที่ป้อมตำรวจทางหลวงก่อนวิ่งเข้าลำปาง



หัวหน้าทีม "ลูกบ๊วย ณ สวนสยาม" ที่พาขี่แบบสบายๆ ไม่เร็วไม่ช้า แต่มีชู้ทเป็นช่วงๆ คลายความหงุดหงิดจากรถที่ขับกันได้กวนเหลือเกิน
และกะเวลาได้แป๊ะมากๆ นับถือจริงๆ



ทริปนี้น้องนางก็ยังควบ K9 ออฟชั่นแบบแข่งมาเหมือนเดิม นับถือเลยน้องเอ๋ย...เก่งมากๆ



ถึงลำพูนก็เย็นย่ำพอดี 5 โมงกว่าๆ แวะสักการะเจ้าแม่จามเทวี



อฐิษฐานอะไรหนอ... ^^


รุ่งเช้า...เราแวะเที่ยววัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ใจกลาง เมืองลำพูน เป็นโบราณสถานอันสำคัญของนครหริภุญชัยที่พญาอาทิตยราชเป็นผู้สถาปนาขึ้นในราว พุทธศตวรรษที่ ๑๗ เพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ













หอไตร


ที่จริงแล้ว คาดหวังว่าจะได้ไปอีกวัดหนึ่งในลำพูน คือ วัดพระบาทห้วยต้ม แต่เพราะเส้นที่เราขึ้นมาไม่ใช่สายเอเซียปรกติ จึงทำให้พลาดไปอย่างน่าเสียดาย เพราะแม้ลำพูนจะเป็นจังหวัดเล็กๆ แต่วัดในจังหวัดนี้ มีความสวยงามไม่น้อยเลย







พี่เลี้ยงในทริปนี้ ^^



หลังเที่ยววัดในลำพูนเสร็จ ก็ไปเชียงใหม่ นี่เป็นครั้งแรกที่น้องนางขี่รถมาไกลขนาดนี้
และ เป็นครั้งแรกที่ขึ้นมาเที่ยวเชียงใหม่ด้วย จึงพาเที่ยวเสียหน่อย พี่ๆ ฮาเลย์ก๊วนนี้เจอบนดอยสุเทพ



ขึ้นไปเที่ยวดอยปุยก่อน แล้วค่อยๆ แวะที่เที่ยวที่อื่นๆ ไล่ลงมา



เด็กชาวเขาผิวขาวเนียนดีจริงๆ



ว่าขากลับจะลงมาอุดหนุนคุณยายเสียหน่อย แต่เดินลงอีกทาง...อดเลย



ฝิ่น...



สาวดอยปุย



มาเฟียคุมตลาด เดินตรวจตรา



แวะเบี้ยใบ้รายทาง...



จอดรถมันหน้าป้ายเลย เพราะของติดรถเยอะ กระเป๋าบางใบก็ล็อคไม่ได้ จอดให้อยู่ในหูในตาผู้คนเยอะๆ



แต่ละวัด ก็ต่างธรรมเนียมและความเชื่อ อย่างที่นี่...ให้ซื้อระฆังเล็กๆ ถวาย



ค่ำคืนที่ 2 ที่เชียงใหม่ พี่หนึ่ง...อีกหนึ่งสาวที่รักใน 2 ล้อ ลงมาจากแม่สาย เพื่อทานข้าวกับพวกเราโดยเฉพาะ
และเป็นเจ้าภาพอาหารมื้อยักษ์นี้ ขอบคุณมากๆ ค่ะ ^^ อร่อย แต่ก็เกรงใจมากๆ เลยค่ะ



ปีนี้ก็เหมือนเดิม...ทุกครั้งที่ขึ้นมาเชียงใหม่ ต้องมานอนบ้านเพื่อนเอ้...เพื่อนสาวนักบิด
ปีนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย เด็กๆ เลยป่วยกันหมด แต่ก็ยังร่าเริงยิ้มได้ ^^ และกลุ่มจากโคราชอีก 3 คันก็เดินทางมาสมทบตั้งแต่เมื่อคืน

วันที่ 2 จัดทริปสั้นๆ ร่วมกับสาวๆ นักบิดในเชียงใหม่ ไปน้ำพุร้อนสันกำแพง
จริงๆ จะไปสะเมิงกัน แต่ฝนตกก่อนรุ่งสางจนกว่า 9 โมงก็ยังไม่หยุด เลยต้องเปลี่ยนจุดหมาย



แอนนี่ อ้อ ปอม และเจ๊ปี้ (เรียงจากซ้ายไปขวา) สาวๆ ทั้งหมดขี่เองนะคร้าาา



รวมตัวกันที่บ้านเอ้ ก่อนออกเดินทาง



เรามาดูสาวเชียงใหม่หัวใจ 2  ล้อคนอื่นๆ กันบ้าง คนแรก...น้องแอนนี่ กับ Kawasaki ZX10



เต้ย กับ Kawasaki Er6n



^_______^ สาวๆ นักบิด



ถึงแล้วน้ำพุร้อนสันกำแพง



ความเหมือนโดยบังเอิญ ทั้งเสื้อและกางเกง ของ 2 สาว ฝนและแอนนี่





มาบ่อน้ำพุร้อน...ก็ต้องคู่กับไข่ต้ม





ต้มเสร็จก็รุมกันหม่ำอย่างสนุกสนาน กินกันซะอิ่มแทนข้าวกลางวันเลย



โฉมหน้าสาวๆ นักบิดในทริปเล็กๆ นี้ [เรียงจากซ้ายไปขวา]
แฮปปี้ (Happyka), แหวว (Sweetsyrup) แอนนี่ (Anniie Bikezii Qzx) ฝน (Maneaw) นาง (Nang) อ้อ (moody aor) เต้ย (Calamine Er) ปอม (Pomlady)



ปัจจุบันมีสุภาพสตรีหันมาขี่รถเองมากขึ้น ชอบๆ อยากให้มีเยอะๆ ^^


บ่ายของวันที่ 2 ออกเดินทางจากเชียงใหม่ ไปทางแม่แจ่ม เพื่อไปเจอกับกลุ่มพิษณุโลกแถวๆ บ้านหัวปอน (ก่อนถึงขุนยวม) แต่เกิดความผิดพลาด ทำให้เราขี่เลยจุดนัดไปจนถึงขุนยวม (เลยไป 40 km) แถมยังเกิดความผิดพลาดมากกว่านั้น ทำให้น้าบ๊วยและพี่ปอ ถูกหมอและสายโคราช (4 คัน 5 คน) ทิ้งไปนอนที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน น้ากับพี่ปอเลยสนุกสนานอยู่แถวๆ ขุนยวมอย่างเดียวดาย (เห็นเล่าว่าได้ล้อมวงกินข้าวกับชาวบ้านแถวนั้นอย่างสนุกสนาน) อิอิ







เรื่องมีอยู่ว่า...เราแวะป้อมตำรวจที่สามแยกขุนยวม คุณตำรวจบอกว่าอย่าไปที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนเลย ไม่่น่าจะหาที่พักได้หรอก น้ากับพี่ปอเลยไปสำรวจที่พักในขุนยวมให้ ขณะที่รออยู่ที่แยก น้ากับพี่ปอขี่กลับมาและไปสำรวจอีกทาง พวกเราเห็นได้ยินเสียงแตรและเห็นว่ามีการกวักมือเรียก จึงคิดว่าให้ขี่ตามไป มุ่งหน้าเส้นทางสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ขี่ตามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทันเสียที จนถึงตัวเมืองแม่ฮ่องสอน จึงโทรหาน้า

หมอ "น้าอยู่ไหนกันคะ พวกหนูขี่ตามมาจนถึงตัวเมืองแล้วค่ะ"
น้า  "เอ่อ...ผมยังอยู่ที่เดิมอ่ะ สามแยกเมื่อกี้"
หมอ "อ้าว...เอาแล้วไง"
น้า  "ไม่เป็นไร แต่มืดแล้ว ผมนอนแถวนี้แล้วกัน ขี้เกียจขี่ละ"
เรื่องมันเป็นประการฉะนี้แล










เช้าวันที่ 3 ระหว่างรอน้ากับกลุ่มพิษณุโลกที่ตามมาสมทบ เราก็ไปเที่ยววัดพระธาตุดอยกองมูกัน ^____^ อากาศสดชื่น แดดเปรี้ยงดีจริงๆ



วิวเมืองแม่ฮ่องสอน





และแล้ว เราก็ได้พบกันในที่สุดครบทั้งน้าบ๊วย พี่ปอ และกลุ่มพิษณุโลก เดินทางต่อไปนอนยังบ้านรักษ์ไทยในคืนนี้



มาเที่ยวปางอุ๋งในตอนเย็น เพราะพรุ่งนี้ต้องกลับแต่เช้าตรู่



โฉมหน้าสายโคราช



คืนนี้เราทานข้าวกันที่ร้านลีไวน์รักษ์ไทย กับอาหารแบบจีนยูนาน เมนูหลักที่พลาดไม่ได้คือ ขาหมูหมั่นโถว จัดเต็มกันจนจุกเลยทีเดียว




เกิน...หลายเด้อ เอ้ย...สาวๆ เกิลด์ไรเด้อบางส่วน ^^



โฉมหน้ากลุ่มพิษณุโลก ด้านบนเป็นห้องพักที่เราพักกันในคืนที่ 3 นี้ ชื่อ Tae House บ้านรักษ์ไทย (www.yongtha.com,  084-7393181) คนที่ 3 จากทางซ้ายคือเจ้าของที่พัก



กลางคืนมีคณะละครสัตว์มาเปิดการแสดงพอดี จึงแวะเข้าไปดูเสียหน่อย หมาน้อยน่ารักมากความสามารถมากๆ



คนพากษ์คณะละครสัตว์หน้าตาและหุ่นแบบนี้ ทำเสียงเล็กเสียงน้อยพากษ์ได้ฮามากๆ



บรรยากาศยามเช้า ก่อนแยกอำลาแม่ฮ่องสอนเพื่อยิงยาวกลับกรุงเทพ โดยเหลือกลุ่มพิษณุโลกยังอยู่เที่ยวสะเมิงต่ออีกหนึ่งวัน



แวะถ่ายรูปกับไร่ชาเสียหน่อย ปีนี้อากาศไม่หนาวเท่ากับ 2 ปีก่อนที่เคยมา




แวะพักเป็นระยะๆ



วิวสวยๆ ระหว่างทาง



ถนนภาคเหนือมากี่ทีๆ ก็ไม่เบื่อ แต่จะขึ้นมาทั้งทีก็ต้องให้คุ้มหน่อย ต้องวางแผนเพื่อเก็บเส้นทางสวยๆ ให้สมใจอยากซักหลายๆ วันหน่อย



สาดโค้ง...ถนนเนียนๆ สวยๆ (น้องเปียง โคราช)



ถนนจากบ้านรักษ์ไทยไปปาย (พี่โดม โคราช)



สาวฝนกับ Kawasaki Versys คู่ใจ



น้าบ๊วย สวนสยามมมม



พี่ปอ ชลบุรี



น้าของเราเนื้อหอมเสมอ ต้องมีสาวๆ เข้ามาคุยด้วยเป็นประจำ

จากบ้านรักไทยถึงปายราวๆ 10 โมงกว่า จากปายถึงเชียงใหม่ราวๆ บ่ายโมงกว่าว ออกจากเชียงใหม่เกือบ 4 โมงเย็น



ถึงลำปาง 5 โมงกว่าๆ



สายกรุงเทพ แยกกับสายโคราชที่ตรงนี้ โดยสายกรุงเทพขี่ไปทางถนนสายเอเซีย ส่วนสายโคราชเข้าอุตรดิตถ์ ถึงจุดหมายไล่เลี่ยกันคือเกือบเที่ยงคืน

ถนนสายเอเซียอยู่ในสภาพดีตลอดเส้นทาง มีถนนพังอยู่ 1 ช่วง คือ นครสวรรค์เป็นระยะทางไม่เกิน 100 เมตรเท่านั้น


จบทริปแบบไม่ค่อยอิ่มเท่าไหร่ เพราะปีนี้ได้ขี่รถน้อยเหลือเกิน (วัดจากเลขไมล์) ลูกรักเข้าไปอยู่ในอยู่นานกว่า 7 เดือนเลยทีเดียว แต่ก็ได้ความสนุกแบบพอหอมปากหอมคอ ที่สำคัญคือการได้พบปะเพื่อนฝูงชาวสองล้อให้หายคิดถึง





ทริปจบ...มิตรภาพไม่เคยจบ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^____^

เด๋วจะมีคลิปตามมาอีกเช่นเคย อดใจรอแป๊บนะคะ