วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2554

Girl Riders (สายกรุงเทพ) ตะลุย...ราตรี คืนที่แสนจะโชคร้าย

เพิ่งจะได้รถกลับคืนสู่อ้อมอกได้ไม่นาน จากที่ไปดองเค็มในศูนย์เสียกว่า 7 เดือน ช่วงนี้แม้จะมีทริปถี่มากๆ แต่ก็ไม่ได้ลดความอยากแต่อย่างใด และตั้งแต่โหลดรถลงมา ทำให้กล้าขี่ในกรุงเทพ เมืองที่ขึ้นชื่อว่ารถติดๆ อันดับต้นๆ ของโลก

ทริปนี้จึงเป็นตัวตั้งตัวตี อยากขี่รถชมเมือง แวะถ่ายรูปกับสถานที่สวยๆ งามๆ ยามค่ำคืนในกรุงเทพ

แต่กว่าจะรวมตัวกันได้ ตั้งต้นที่พัฒพงษ์ ร้านของยุ้ย โดยรวมกันได้ 3 สาว คือ หมอแหวว ยุ้ย และอ้วน จุดหมายแรกของค่ำคืนนี้คือการหาอะไรเบาๆ คิยุอาโนเน๊ะสมวัยน่ารักของเราทั้ง 3 คน ลงตัวที่มนต์นมสด เสาชิงช้า



ในขณะที่นั่งกินกันอย่างเอร็ดอร่อย สายตาก็พลันไปเห็นหัวปิงปองสีขาวยืนป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ รถของพวกเรา
ที่จอดอยู่ฝั่งข้างๆ ศาลากลางกรุงเทพ





โดนหมาต๋าล็อคล้อไป 2 คัน กำลังจะล็อคคันที่ 3 แต่พวกเราออกไปซะก่อน จึงรึบเข้าไปเจรจาทันที พี่หัวปิงปองบอกว่ายืนโบกไม้โบกมืออยู่นานแล้วนะยะ ทั้งๆ ที่เว้งฝั่งนี้เป็นจุดที่เว้าเข้าไป สามารถจอดรถโดยไม่กีดขวางการจราจรได้ กลับผิด แต่อีกฟากถนนที่จอดหน้าร้าน ทำให้การจราจรแคบลงไป กลับไม่ผิด ตลกดี สรุปก็คือต้องจ่ายไปตามระเบียบ แต่โดนแค่ 2 คัน ^^ ใครไปกินมนต์ให้จอดฝั่งร้านนะคะ รับรองว่าไม่โดนล็อคล้อแน่นอน คุณตำรวจยังบอกอีกว่าไอ้ป้ายห้ามจอดน่ะของเทศบาลเขา หาใช่ของตำรวจจราจรไม่ แต่มีป้ายห้าม ก็ถือว่าผิดกฏ ก็สามารถจับได้นั่นแล



ยังร่าเริง...เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรื่องจิ้บๆ

อิ่มแล้วก็ออกไปเท๋วต่อ จุดหมายแรกคือ เสาชิงช้า แต่ดูเหมือนโชคร้ายจะเริ่มปรากฏ
เพราะไปถึงไฟที่เคยส่องสว่างสวยงามก็ได้ดับลงแล้ว ไม่เป็นไร จุดหมายต่อไป ลานพระบรมรูปทรงม้า







ได้จอดรถถ่ายรูปเพียงแป๊บเดียว ยังไม่ทันได้ไปถ่ายกับพระบรมรูปเลยไฟก็ดับฉับลงทันที

หนำซ้ำฝนยังกระหน่ำเทลงมาอย่างรุนแรงชนิดที่ไม่สามารถลืมหูลืมตาได้ โอว...แม่เจ้า



Photobucket

ตกหนักจนต้องแวะหลบฝนที่ใต้สะพาน แถวๆ สี่แยกอุรุพงษ์


แต่ฝนก็ไม่อาจหยุดความสนุกสนานของพวกเราได้หมดเสียทีเดียว เพราะพวกเราก็ยังยืนคุยกันอย่างสนุกสนาน เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ณ ที่แห่งนั้นก็ได้อีกสักพักใหญ่ กว่าฝนจะซา พอให้พวกเราขี่ต่อ ทริปของค่ำคืนนี้จึงต้องจบลงอย่างน่าเสียดาย แต่ไม่เสียใจเลย



Mixed up รวมมิตร เก็บตก Girl riders Trips from sweet2syrup on Vimeo.



มีคลิปมาฝากเช่นเคย แต่ผสมๆ กันจากหลายๆ ทริป สำหรับทริปนี้จะอยู่ช่วงท้ายๆ ของคลิปค่ะ

Girl Riders Track Day Meeting Trip 2 @ BRC

เนื่องจากเรามีสมาชิกน้องเล็ก เป็นนักแข่ง บรรดาพี่ๆ ก็อยากมีทักษะและความรู้เพิ่มขึ้น จึงเรียกร้องว่าเปลี่ยนจากเที่ยว เป็นลงสนามบ้างเหอะ จึงเริ่มมีการนัดแนะกัน ลงตัวที่สนาม BRC เพราะสะดวก แต่สนาม BRC มีข้อเสียตรงที่เล็ก ถ้าเอารถใหญ่ลง มักไม่สนุก และด้วยความอนุเคราะห์จากพี่ๆ ทริปนี้ เราจึงได้ลองรถเล็กกัน ได้แต่ KSR และ Click ตัวแข่งของน้องเล็กนั่นเอง

นัดกัน 9 โมง มากันตรงแป๊ะ ไม่มีเลท เพราะทุกคนกระตือลือล้นหมด วันนี้รวมกันได้เพียง 5 สาว Girl Riders ได้แก่ ยุ้ย หมอแหวว อ้วน แจ๊ส แล้วก็ต้นหอม

จากรถใหญ่มาขี่รถเล็ก คนอาจจะยี้คิดว่าไม่มัน แต่การขี่รถเล็กที่แรงพอมี ไม่มากจนเกินไป กลับทำให้เรามีเวลาไปจดจ่อและให้ความสำคัญกับทักษะพื้นฐานได้ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นท่าทางการขับขี่ วิธีการเดินคันเร่ง เปลี่ยนเกียร์ เพื่อให้ได้มาซื่งความเร็วที่ดีขึ้นในแต่ละรอบ เพราะเมื่อพื้นฐานเหล่านี้ถูกต้องแล้ว ความเร็วถึงจะมาด้วยตัวมันเอง ถ้ามัวแต่ไปเร่งๆ แต่พื้นฐานไม่ถูกต้อง ไงๆ ก็ขี่ไม่ได้ดี





Photobucket

แต่ละคนตั้งอกตั้งใจฟังกันอย่างขะมักขะเม้น ยิ่งกว่าตอนเรียนหนังสือกันเสียอีก คิคิ




ประสิทธิ์ประสาทวิชากันด้วยวาจา ยังไม่หนำใจ ซ้อนรถดูลายกันตัวต่อตัวเลยทีเดียว ^^



ได้เวลาลองวิชาแล้ว

Photobucket

Photobucket

มีสไลด์ไปบ้างเล็กน้อย แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ลุกขึ้นมาซึ่งต่อได้ทันทีด้วยใจที่ยังเต็มร้อย


ได้ลองทั้ง 2 แบบ คือ KSR และ Honda CLICK ไอ้เจ้า KSR น่ะไม่เท่าไหร่ เพราะล้อหน้ายางมันก็ดูกว้างๆ แต่เจ้า Click นี่สิ หน้ายางดูแคบๆ คิดว่าคงจะเสียว แต่ที่ไหนได้ หนึบและเร่งได้ดังใจดีชะมัด สนุกกว่า KSR อีก เพราะไม่ต้องมาคอยเปลี่ยนเกียร์ เพราะว่าบิดอย่างเดียว



นอกจากนี้ พี่ตั้น ยังนำรองเท้า ARASHI มาให้พวกเรา Girl Riders ไว้ใช้ใส่ขี่รถกันทุกคนอีกด้วย



สังเกตุดีๆ พวกเราทุกคนใส่รองเท้าเหมือนกันหมดเลยค่ะ

ใครสนใจ ตาม Link ไปเลยค่ะ ARASHI



Photobucket

วันแห่งความรู้และความสนุกสนานวันนี้ก็จบลง ขอบคุณที่ติดตามค่ะ ^^

วันอังคารที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2554

การขับขี่รถ...เวลาออกทริปเป็นกลุ่มใหญ่และสัญญาณมือ

ในการออกทริปที่มีผู้ร่วมทริปเป็นจำนวนหนึ่ง ก่อนออกเดินทางควรต้องมีการสรุปรายละเดียดต่อผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด เพื่อให้การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย

รายละเอียดที่ควรสรุปมีดังนี้,

1 รายละเอียดการเดินทาง
- จุดหมาย อาจจะฟังดูตลก แต่หลายครั้งที่เมื่อร่วมเดินทางในขบวนใหญ่ จะไปไหนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
- เส้นทางทีใช้ในการเดินทาง เพราะหนึ่งจุดหมาย อาจะไปได้หลายเส้นทาง จึงควรแจ้งผู้ร่วมเดินทางให้ชัดเจน ว่าในการเดินทางครั้งนี้จะไปเส้นทางไหนแน่ ไม่งั้นก็หลงๆ เลยๆ รอๆ กันอยู่นั่นแหละ
- จุดแวะแวะเติมน้ำมัน เพราะรถแต่ละรุ่นมีความจุของถังน้ำมัน และอัตราการกินน้ำมันที่ไม่เท่ากัน จึงควรพิจารณาว่าจะต้องวิ่งในระยะทางเท่าไหร่ ถึงจะต้องแวะเติมน้ำมัน เพราะถ้าต่างตนต่างเติม ก็จะทำให้เสียเวลาในการเดินทาง รถทุกคันควรจะต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังทุกครั้งที่มีการแวะปั๊มน้ำมัน ถึงแม้ว่ารถของคุณจะกินน้ำมันน้อยกว่าคนอื่นและน้ำมันยังเหลืออีกตั้งครึ่งถังก้อตาม แต่เมื่อขี่ต่อไป น้ำมันของคุณจะหมดก่อนเพื่อนคนอื่น และจะทำให้ขบวนต้องหยุดเมื่อยังไม่ถึงระยะที่กำหนด เมื่อเติมน้ำมันเรียบร้อยแล้ว ควรเลื่อนรถออกจากตำแหน่งหัวจ่ายไปรวมกับผู้ที่เติมเรียบร้อยแล้ว เพื่อรอสัญญาณออกเดินทางจากผู้นำกลุ่ม
- การแบ่งกลุ่ม ควรจะต้องมี โดยอาจร่วมกับการจัดลำดับการขี่ในกลุ่มด้วย เพราะความสามาถในการขี่ของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนขี่ช้า บางคนขี่เร็ว บางคนรู้ทาง บางคนไม่รู้ทาง

โดยจะแบ่งเป็น
- Ride Leader หรือ ผู้นำกลุ่ม ควรจะเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ในการขับขี่เป็นอย่างดี รู้จักและจดจำเส้นทางได้อย่างแม่นยำ รู้ระยะที่ปลอดภัยของขบวนในการเข้า-ออกทางคู่ขนานต่างๆ เป็นผู้กำหนดความเร็วในการเดินทางที่เหมาะสม ผู้นำกลุ่มจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจใน ตำแหน่งที่พักระหว่างทาง ปั๊มน้ำมัน สัญญาณเตือนเส้นทางข้างหน้า รูปแบบการขี่ ระยะห่างระหว่างรถ ซึ่งจะต้องจัดลำดับของผู้ตามได้อย่างถูกต้อง โดยมือใหม่ของกลุ่มควรที่จะอยู่ท้ายขบวนให้ใกล้กับ Tail Gunner (คนคุมท้าย) ให้มากที่สุด
ก่อนเริ่มต้นเดินทางทุกครั้ง เป็นหน้าที่ของผู้นำกลุ่มที่จะต้องทำความเข้าใจเรื่องความปลอดภัย (Safety Briefing) และรายละเอียดการขี่ให้กับสมาชิกในกลุ่มทราบ

- Tail Gunner หรือ คนคุมท้าย
เปรียบเสมือนตาด้านหลังของผู้นำกลุ่ม สามารถขี่ได้อย่างอิสระ ซึ่งจะเป็นคนคอยควบคุมลำดับการขี่ แจ้งเตือนเมื่อมีรถพยายามจะแซง แจ้งปัญหาอื่นๆที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการขี่ให้ผู้นำกลุ่มและสมาชิกคนอื่นๆทราบ อย่างการพยายามเข้าแทรกระหว่างขบวนของรถยนต์ หรือลมดูดที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อมีรถใหญ่แซงขึ้นไป เป็นผู้คอยกันรถหลังเมื่อขบวนพยายามจะเปลี่ยนเลน ในบางขณะที่ คนคุมท้าย จะต้องออกจากขบวนไป ผู้นำกลุ่มจะต้องมอบหมายให้นักขี่ที่มีประสบการณ์เข้ ามาทำหน้าที่แทน

- New Rider หรือ มือใหม่
จะหมายถึงสมาชิกที่ยังไม่ค่อยมีประสบการณ์กับการขี่ออกทริป เป็นกลุ่ม ตำแหน่งที่เหมาะสมควรจะอยู่ท้ายขบวนให้มากที่สุด


รอเพื่อนที่ตามหลัง หลายครั้งที่ทั้งขบวนจะต้องหยุดรอสมาชิกที่หายไป ดังนั้นสมาชิกทุกคนควรหมั่นสังเกตุเพื่อนที่ขี่ตามหลังจากกระจกหลังอยู่เสมอ หากเพื่อนเราหายไปจากขบวน พยายามแจ้งให้เพื่อนคันหน้าทราบ ชะลอหรือหยุดรอ โดยไม่ขวางทางรถคันอื่นบนถนนซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายได้

ในระหว่างการเดินทาง ถึงแม้ว่าจะมีรถ Service ติดไปด้วยก็ตาม แต่ทุกคนควรจะต้องมีชุด Service ชุดเล็กติดกระเป๋าหลังไปด้วย พร้อมกับโทรศัพท์มือถือเพื่อใช้ขอความช่วยเหลือ บางครั้งอาจจะให้วิธีการส่ง SMS ว่าจะนัดเจอกันที่ตำแหน่งไหนในกรณีที่ระหว่างขี่ไม่สามารถรับสายได้ หรือการให้เบอร์ติดต่อกลางของรถ Service หรือเพื่อนที่ไม่ได้ขี่เพื่อจะได้เป็นคนคอยประสานงาน ให้

ลำดับตำแหน่งการขี่ (Riding Formation) จะแบ่งเป็น 2 แบบคือ ขี่แบบ สลับฟันปลา 2 แถว และ ขี่เรียงหนึ่ง โดยผู้นำกลุ่มควรจะอยู่ชิดเส้นกลางเสมอ เพื่อที่จะมองเป็นเส้นทางข้างหน้าสำหรับการแซง และข้างหลังสำหรับรูปขบวน รวมไปถึงรถที่พยายามจะแซงได้อย่างชัดเจน ระยะห่างของรถคันที่สอง ควรจะทิ้งระยะที่ 1 วินาที และคันที่ 3 ซึ่งอยู่หลังผู้นำกลุ่มจะทิ้งระยะที่ 2 วินาทีจาก


สัญญาณมือในการขับขี่รถมอเตอร์ไซด์

จริงๆ มันก็มีระบบสากลอยู่ บ้านเราก็ใช้ใกล้เคียง แต่ก็อาจมีปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมได้

สตาร์ทเครื่อง

ยกมือขวาหรือซ้ายก็ได้ขึ้นเหนือศรีษะ ร่วมกับชูนิ้วชี้ขึ้น แล้วหมุนข้อมือเป็นวงกลม



เลี้ยวซ้าย กางแขนซ้ายออกทำมุม 90 องศากับร่างกาย แล้วโบกขึ้น-ลง

เลี้ยวขวาแบบไทย



เลี้ยวขวา กางแขนขวาออกทำมุม 90 องศากับร่างกาย แล้วโบกขึ้นลง หรือ ยกแขนซ้ายชี้ข้ามหมวกกันน็อคไป



การเร่งความเร็ว ยกมือซ้าย ชูนิ้วชี้ แล้วจิ้มพุ่งไปทิศทางด้านหน้ารถ



การละลอความเร็ว กางแขนกางแขนซ้ายออกทำมุม 45 องศากับร่างกาย แล้วโบกข้อมือขึ้น-ลง



การหยุดรถ ตั้งข้อศอกซ้าย 90 องศา พร้อมกับกำมือ
(แต่ในต่างประเทศ หมายถึงเลี้ยวขวานะจ๊ะ งั้นถ้าหยุดรถของต่างประเทศหล่ะ จะกางมือซ้าย 45 องศาแล้วเบมือมาทางด้านหลัง เหมือนในรูป)



สิ่งอันตรายทางซ้าย โดยชี้ไปที่วัตถุด้วยมือซ้ายของคุณที่มุม 45 องศา
หรือเป็นวิธีที่สากลมากยิ่งขึ้นและปลอดภัยในการทำเช่นนี้คือโดยการชี้ไปที่วัตถุที่กระทำผิดด้วยเท้าซ้าย



สิ่งอันตรายทางขวา ถ้าสิ่งอันตรายอยู่ด้านขวา ใช้เท้าขวากางออกชี้ไปที่วัตถุ จะเหมาะสมกว่ามือ
เพราะมือเราบิดคันเร่งอยู่ แต่ถ้าขี่ในความเร็วต่ำสะดวกจะใช้มือขวาชี้ก็ไม่ว่ากัน



ลืม...เปิดสัญญาณไฟกระพริบทิ้งไว้ กางแขนซ้ายออกมา แล้วกำมือสลับแบมือ



ตำรวจหรือตรวจจับความเร็วอยู่ข้างหน้า ยกมือขึ้นเหนือหมวกกันน็อค แล้วแตะหมวกกันน็อค



บอกให้คันหลังขี่ผ่านไป กางแขนออกข้างลำตัว แล้วโบกจากหลังไปหน้า



ให้ขี่เรียงหนึ่ง ยกมือซ้ายกำมือชูนิ้วชี้ขึ้น แล้ววางไว้บนหมวกกันน็อค



ให้ขี่สลับฟันปลา ยกมือซ้ายกำมือชูนิ้วขึ้น 2 นิ้ว เครื่องหมายสู้ตายค่ะ นั่นเอง หรือ ทำเครื่องหมาย I love you ก็ได้ แล้วแต่ถนัด



แวะเติมน้ำมัน ชี้มือไปที่ถึงน้ำมัน



แวะพัก ก็จะรวมกินอาหาร เข้าห้องน้ำ อื่นๆ อีกมากมายที่อยากจอดร ชี้มือไปที่ปาก

มาดูรูปภาพรวมๆ กันอีกครั้ง สัญญาณมือดังในภาพสามารถปรับใช้ได้ตามความถนัดและความเหมาะสม
เพียงแต่ต้องมีการแจ้งให้ผู้ร่วมทริปเข้าใจและรับรู้ทุกคนเสมอก่อนออกเดินทาง




ขอขอบคุณภาพประกอบจากหลายๆ แหล่งในเวปไซด์ต่างๆ นะคะ

ขี่รถ (BMW F800GS) ใกล้ๆ เขาใหญ่ - ชัยภูมิ ภาคแก้ตัวผาหำหด

วางแผนจะขึ้นเหนือยาวๆ แต่มาล้มเพราะฝนที่ยังไม่ซาและน้ำท่วมที่ยังไม่ลด จึงกลายเป็นทริปซ่อมความคาใจกับผาหัมหด ช่วงนี้ดูเหมือนจะแวะเวียนเขาใหญ่ถี่เหลือเกิน ออกจากบ้าน 10 โมง ไปยังจุดแวะรวมพลที่ปากช่อง โดยผ่านเขาใหญ่ฝั่งปราจีนเหมือนเคย



รวมตัวคาราวานได้ 6 คัน 3 kawasaki, 2 BMW, 1 Yamaha



มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติไทรทอง ตามล่าหาผาหัมหด ^^





เมืื่อถึงทางเข้าอุทยาน เจ้าหน้าที่บอกว่า "ผมไม่รับประกันนะครับ ว่าจะขึ้นไปได้หรือเปล่า เพราะน้ำแรง" เราก็คิดว่าคงได้น่า ไอ้หยะ...พอลงไปสำรวจทาง เป็นลานหินที่ไม่เรียบ มีลักษณะเป็นขั้นๆ ขี่ลงไปรับรองว่ากลายร่างเป็นเรือลอยหายไปแน่ๆ



เซ็งอย่างแรง มาแก้ตัว ก็ยังแก้ไม่สำเร็จ ฝากไว้ก่อนเถอะ ^^



แบบครบๆ 7 คน 7 คัน



เปลี่ยนไปชิวๆ ที่ "น้ำตกไทรทอง" แทน ปรกติขี่รถลงมาตรงนี้ไม่ได้หรอก แต่วันนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่ เลยขี่ลงมากัน เพราะขี้เกียจเดิน แลมีอีก 1 Suzuki ตามมาสมทบ



น้ำเยอะ แรง แต่ไม่แดงให้สยอง เหมือนคราวที่แล้ว พวกเราจึงเดินเล่นถ่ายรูป ชิวๆ ซึมซับบรรยากาศกันพักใหญ่ๆ



อากาศเย็นสบายมากๆ



ตั้งกล้องถ่ายรูปไว้กลางน้ำตกกันแบบไม่กลัว ขอให้ได้ภาพสวยๆ แค่นั้นเป็นพอ ^^



เห็นกล้องเป็นต้องสู้ จะกล้องใคร กี่ภาพ ไม่หวั่น จัดมา



ความซนของผู้หญิง 3 คนในทริป ถึงกับทำเอาหนุ่มๆ ปวดหัวไปตามๆ กัน



อีกซักช็อต...ก่อนจะถูกน้องโบ้หลอกไปกินข้าวเย็นในตัวเมืองชัยภูมิ ด้วยหนทางอันแสนไกลอีกเกือบ 100 กิโล

รุ่งขึ้น...ตัดสินใจขึ้นเขาใหญ่ จุดหมาย...ไปเที่ยวน้ำตกธารรัตนา



แวะจุดชมวิว...ใครก่อไฟรึเปล่านะ ?



ซารังแฮโย ... อิอิ


น้ำตกธารรัตนาเป็นน้ำตกแรกที่จะเจอก่อน เมื่อขึ้นมาจากฝั่งปราจีนบุรี ถ้ามุ่งมาจากฝั่งปากช่อง อาจจะเลยไปได้ เพราะไม่เห็นป้าย เดินจากถนนเข้าไปเพียงนิดเดียว แต่จริงๆ แล้วสามารถเดินตามลำธารลงไปได้เรื่อย เพราะเคยมาโรยตัว โดยจะไปสิ้นสุดที่อ่างเก็บน้ำในนครนายกเลยทีเดียว







เรานั่งชิวกันอยู่ตรงนี้เป็นชั่วโมงได้ ไม่มีคน...น้ำตกเป็นของเรา

ทริปสั้นๆ แต่รู้สึกดี...อีกแล้ว แยกย้ายกันที่ตรงนี้

จบไปอีกหนึ่งทริป ที่ไม่ทำให้ใจอิ่มกับการขี่รถซักที มีแต่จะอยากขี่เพิ่มอีกอยู่ตลอด ทำไงดีล่ะทีนี้ ^^



ขอบคุณที่ติดตามค่ะ