วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทริปเก่า...ทิ้งหนูดี (รอบสอง) ขี่ FZ1 ตะลุยเหนือ เลาะตะเข็บชายแดน ลาว-ไทย-พม่า [ตอนที่ 2]

อ้ะๆ นี่คือตอนที่สองนะคะ อย่าลืมอ่านตอนแรกก่อน เด๋วได้อรรถรสไม่ครบค่ะ

มาตลุยต่อกันเลยค่ะ ^_^


จากตัวเมืองน่าน มีจุดหมายที่เชียงราย แต่อย่างไรก็ต้องขี่ที่น่านให้ได้มากสุด เพราะมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าทางสวยๆ พลาดไม่ได้ จากตัวเมืองน่าน (1080)ผ่านท่าวังผา (1148) สองแคว ไปเชียงคำ มาทางจุน (1021) เข้าพะเยา


เส้นทางในน่าน ถนนเรียบดี ทำโค้งรับ คอสะพานไม่กระเดิด คุณสมบัติเหล่านี้เป็นที่ชอบใจขอบเหล่า biker ยิ่งนัก




ยิ่งถนนช่วงสองแควขึ้นไปแล้วด้วย โค้งสวยมากๆ แต่อาจจะไม่ถูกใจคอสปอร์ตเท่าไหร่นัก เพราะโค้งค่อนข้างแคบ แถมโค้งกว่าตัว U อีก มันเหมือน U บีบๆค่ะ แต่ถ้าใครชอบโค้งลึกๆแล้วละก็ถูกใจสุดๆ


วิวก็สวย...




แวะกินข้าวกลางวันพี่กว๊านพะเยา ในภาพเป็นวัดกลางน้ำที่คาดว่าจะจมอยู่ใต้กว๊าน เพราะมีป้ายติดไว้ว่า โครงการกู้วัดติโลก


บรรยากาศบริเวณกว๊าน ที่นี่ได้เจอก๊วน biker ฝรั่งที่พร้อมใจกันใส่เสื้อทีมชื่อว่า “ไม่เป็นไร” ทักทายกันตามประสา biker เล็กน้อย ได้ความว่าขี่มาจากเชียงใหม่มากินข้าว 555


มุ่งหน้าสู่เชียงราย (1) เป้าหมายของแหล่งที่พักในคืนที่สามคือ ภูใจใส แยกจากสายเอเชีย เข้าสู่ 1130 ประมาณ 10KM ผู้จัดการ nice มากๆ และก็วิวสวยมาก สำหรับวันที่สาม ขี่ไป 380km แต่ทางเขาทั้งน้าาาาน เริ่มอยู่ตัว เพราะความเมื่อยและเพลียลดลงอย่างเห็นได้ชัด


วันที่สี่ของการเดินทาง กว่าจะออกจากภูใจใสก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยง เพราะได้ทำการเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง พบว่า GS ยางรั่ว ส่วน FZ1 ก็น้ำในหม้อน้ำเกือบแห้ง วันนี้ไม่มีแผนเป็นเรื่องเป็นราว รู้แต่เพียงว่าเย็นนี้จะไปนอนที่เชียงใหม่ กางแผนที่ดู...ก็เลยตกลงใจจะไปกินข้าวกลางวันกันที่สามเหลี่ยมทองคำ โดยวิ่งไปตามเส้นทางสาย 1 แล้วแยกขวาเข้า 1290


ตัดสินใจลัดเลาะเลียบแม่น้ำโขงไปเชียงแสน และต่อไปยังเชียงของ เพราะจากความทรงจำเมื่อห้าปีที่แล้ว จัดเป็นเส้นทางที่สวย และถนนดี แต่ก็นะ...ห้าปีผ่านไป ถนนจัดว่าแย่เลยค่ะ ทำให้กว่าจะถึงเชียงของปาเข้าไปเกือบบ่ายสามโมงเย็น แต่วิวข้างทางก็ยังสวยงามเหมือนเดิม


ถ้าไปเชียงแสนตามเส้นทาง 1129 (คือเส้นทางตามป้าย) จะทำให้ได้สัมผัสบรรกาศเลียบฝั่งริมแม่น้ำโขงลดลง จะมีสามแยกที่บอกว่าเชียงของเลี้ยวขวา(ทิศทางจากเชียงแสน) ให้ตรงไป ทางน่าจะยังดี เพราะไม่ใช่เส้นทางที่รถบรรทุกวิ่งผ่าน ตัวเองเคยได้สัมผัสบรรยากาศนี้แล้ว แต่เป็นการขี่จักรยานสมัยยังละอ่อนค่ะ 555


หน้าบ้านคุณเอ้ biker ที่แสนน่ารักและใจดีที่เชียงใหม่ค่ะ จากเชียงของกว่าจะกลับเข้าเส้นหลักได้ (1) เส้นทางแย่มากๆค่ะ บางช่วงกำลังทำถนน ดีที่ติด GPS ไปเลยใช้มันนำทาง ย่นระยะไปได้เยอะ มีอยู่โค้งนึงมีกรวดเม็ดแบบกรวดก่อสร้างร่วงอยู่เยอะมาก ขนาดขับ 60km/h รถยังไถลเลยค่ะ เกือบไปเหมือนกัน แถมน้องหมาเยอะอีกด้วย จากเชียงราย (1) แยกเข้า 118 ที่แม่ลาว ผ่านวังเหนือ ดอยสะเก็ดมุ่งหน้าเข้าเชียงใหม่ ถนนช่วงแม่ลาวก่อนถึงแม่สรวย รู้สึกว่าหน้ายางมะตอยค่อยข้างลื่นคะ เพราะคุยแล้วคนที่ขับ GS ก็เป็นเหมือนกัน แต่หลังจากนี้ถนนสวยมาก เป็นโค้งกว้างประกอบกับถนนดี จัดเป็นโค้งที่ทำความเร็วได้สูง ขณะขับบนเส้นนี้ก็เริ่มมืดแล้ว กว่าจะไปถึงเชียงใหม่ก็เกือบสองทุ่มแน่ะ


จริงๆแล้ว คุณเอ้ก็ชวนให้นอนที่บ้านเช่นเคย แต่ด้วยความที่เกรงใจ คราวที่แล้วก็เบียดเบียนไว้เยอะ เช้าวันศุกร์รีบตื่นกันแต่เช้า กะจะออกจากเชียงใหม่ไม่เกินแปดโมง แต่ก็เลท เพราะแวะไปดูรถใหม่ของเอ้ก่อน ก็เลยกลายเป็นเก้าโมง คืนนี้เรากะจะไปนอนที่ตากกัน แต่ก็นะ...ไม่มีง่าย เลยตกลงใจไปทางออบหลวง (108 ออกจากเชียงใหม่ไปทางดอยอินทนนท์) แวะถ่ายรูปกับป้ายซะหน่อย คิคิ เส้นทางไม่ค่อยดีค่ะ ไม่ทำโค้งรับ ทางก็แย่ บางช่วงก็ทำทางอยู่ด้วย


ถึงแม่สะเรียง ก็พยายามขี่หาร้านกินข้าวตามที่ชาวบ้านบอก จึงได้สัมผ้สบรรยากาศสวนผัก อย่างใกล้ชิด




แยกซ้าย จากแม่สะเรียงเข้า 105 มุ่งหน้าแม่สอด มีช่วงนึงทางแย่สุดๆ จริงๆ ทั้งแคบ และหน้ายางมะตอยไม่เหลือ เป็นระยะทางกว่า 60km ทำเอาคนบางคนเมาโค้งเลยค่ะ...หุหุ สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสายตา เช่นสายตาสั้น หรือเอียง แนะนำอย่างยิ่งนะคะ เวลาที่ขี่ในที่ต้องใช้สายตามาก ให้ใส่แว่นค่ะ จะช่วยให้ไม่เมาโค้งหรือปวดหัว เพราะถ้าไม่ใส่แว่นมันจะเป็นการใช้สายตามากเกินไป


เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่เลียบชายแดนไทยพม่า ด้วยความที่มีเสียงลือเสียงเล่าอ้างเกี่ยวกับความเปลี่ยวและกิตติศัพท์ว่ามีการจี้ปล้นพอสมควรทำให้เราพยายามขี่ให้เร็วที่สุด เพราะช่วงถนนในรูป ระหว่างทางเจอมีรถผ่านน้อยมาก ไม่ควรไปกลางคืนนะคะ เสี่ยงเกินไป กว่าร้อยกิโลมีรถสวนไม่ถึงสิบคันเลย


พอพ้นช่วงที่แล้วเราก็เจอช่วงถนนที่กำลังก่อสร้างแบบนี้ คาดว่าน่าจะต่อเนื่องไปถึงแม่สะเรียงในที่สุด ปล. GS วิ่งฉิวสบายเลย ไอ้เรานะก้นระบบไปหมด เสียวจะไถลด้วย 55


หลุดจากช่วงทางลูกรัง พยายามหาร้านขายของตั้งนาน ไม่มีเลย...กว่าจะเจอ แวะพักกินน้ำกันซักกะหน่อย




พอพ้นช่วงทางลูกรังมาได้ ก็เข้าสู่เส้นทางดีๆแบบนี้ ต้องรีบทำเวลาเพราะออกจากร้านค้าก็เกือบสี่โมงแล้ว




ท้ายที่สุด ตอนแรกตั้งใจจะไปนอนอุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช รำลึกความหลังวัยเยาว์ ก็ไม่สำเร็จ เพราะกว่าจะถึงที่ริมเมยก็ห้าโมงกว่า ตกลงใจนอนที่นี่ดีกว่า นอนในแม่สอดค่ะ เต้นท์และอุปกรณ์แคมปิ้งที่แบกมาเป็นหมัน ไม่ได้ใช้เลย 555 (แต่คนแบกไม่ใช่เรา ไม่เป็นไร) ใครมาที่นี่ไปนอน โรงแรมเซ็นทาราเลยนะคะ คืนละพันกว่าๆเอง เสียน้อยเสียยาก เลยนอนโรงแรมราคาถูก แต่คืนละพัน (ถูกกว่าตรงไหนเนี่ย T_T) ตอนแรกคู่หูเค้าอยากขี่คันนี้ แต่ก็อด เลยให้ถ่ายรูปคู่กันซะหน่อย


รุ่งขึ้นออกเดินทางกันแต่เช้า กะว่าจะออกไม่เกินเจ็ด แต่กว่าจะออกก็แปดโมงได้หล่ะ เพราะว่ามีนัดไปเที่ยวกับที่บ้านต่อ ก็เลยต้องรีบกลับ ทางช่วงนี้สวยมากๆ ยิ่งมีช่วงที่เจอหมอกสวยสุดๆ แต่ด้วยความที่หมอกหนาก็เลยไม่กล้าจอดถ่ายรูปช่วงนั้นมาให้ดูกัน


แวะเข้าไปเยี่ยมชมซักเล็กน้อย ให้สมความตั้งใจที่อยากจะแวะมาย้อนความหลัง ว่าเคยมาตอน ม.3 คิดดูว่านานขนาดไหน แล้วก็รีบตีเข้ากรุงเทพโดยด่วน เข้านครสวรรค์ ผ่านอยุธยาถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ เตะชายขอบกรุงเทพราวเที่ยงครึ่ง แต่กว่าจะฝ่าการจราจรอันย่ำแย่ไปถึงบางนาโน่นบ่ายสองกว่าเลย และแล้วทริปนี้ก็จบลงอย่างสวยงาม ส่วนเจ้า FZ1 เละมากๆ ไม่เหลือเค้ารถสปอ์ตเลย ด้านหน้าเต็มไปด้วยซากแมลงเกาะ ด้านหลังเต็มไปด้วยขี้โคลน 555

และแล้วการเดินทางก็จบลง เจอกันใหม่ค่ะทริปหน้าค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น