วันอังคารที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ทริปเก่า...ทิ้งหนูดี (รอบสอง) ขี่ FZ1 ตะลุยเหนือ เลาะตะเข็บชายแดน ลาว-ไทย-พม่า [ตอนที่ 1]

จริงๆ ทริปนี้เป็นทริปเก่าเก็บ คือไปตั้งแต่ต้นปี 52 ราวๆ เดือนกุมภาพันธ์ และได้โพสไว้ในเวป stormclub นานแล้ว แต่เพิ่งจะมีโอกาสนำมารวบรวมไว้ด้วยกันที่นี้ เพราะกำลังจะเปิดฤดูขี่รถกันอีกครั้ง หลังฝนซาและเมื่อลมหนาวมาเยือน เสมือนเป็นสัญญาณบอกว่าถึงเวลาขี่รถเที่ยวกันได้แล้ว ^_^ แต่ก่อนจะมีทริปใหม่มาเล่าสู่กันฟัง ขอนำทริปนี้มาเรียกน้ำย่อยกันก่อนก็แล้วกันค่ะ

เช่นเคยค่ะ...ดูภาพ อ่านเรื่อง กางแผนที่ ...จะเห็นว่ามีตัวเลขกำกับในช่วงต่างๆ นั่นคือเลขของเส้นทางสายถนนที่ใช้ค่ะ ใครจะขี่ตามเส้นทางเหล่านี้ได้เลยไม่มีลิขสิทธิ์แต่อย่างใดค่ะ


ทริปนี้เป็นอะไรที่ยาวมาก (6 วันเต็มๆ) ล่องขึ้นเหนือไปเรื่อย เริ่มต้นที่กรุงเทพ จุดหมายคือแต่ละจังหวัดที่คาดไว้ในแต่ละวัน เริ่มจาก ผ่านเพชรบูรณ์ พิษณุโลก สุโขทัย แวะน่าน เชียงราย เชียงใหม่ และจบที่ตาก จังหวัดที่กล่าวเป็นจังหวัดที่ได้แวะท่องเที่ยว แต่ทางผ่านไม่นับ (เพราะถ้านับจริงๆก็เกือบจะทั่วเหนืออยู่แล้ว ฮา...) ที่ตัดสินใจลองขี่ไกลขนาดนี้ เพื่อเป็นการลองดูก่อน เพราะตั้งใจว่าอยากจะขี่ออกนอกประเทศแน่ๆ ถ้าทริปนี้รอดก็เป็นอันว่าโอ...และแล้วก็รอดปลอดภัย จบทริปด้วยระยะทางเกือบสามพันกิโลเมตร

ปล.ด้วยความที่ทริปมันยาวมาก ก็เลยต้องยอมทิ้งหนูดีไว้ก่อน รอกล่องแต่งก็ไม่มาซักที เพราะช่วงภาคกลาง ถ้าได้ซัก 130-140 km.จะได้พอทำเวลาได้หน่อย


เริ่มออกเดินทางตั้งแต่ 5:30AM ของเช้าวันที่ 2/2/52 เพราะกลัวรถติดกว่าจะผ่าเมืองไปฝังรังสิตได้คงจะแย่แน่ ทำเวลาได้ดี สามารถมาจอดแวะเติมน้ำมันยังปั๊ม ปตท.(ที่แวะประจำ)ได้ตั้งแต่ยังไม่ถึง 6 โมง ช่างเป็นการเริ่มต้นที่ยุ่งเหยิงเพราะ คู่หูกว่าจะนำรถมาให้แพคของก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม ก็เลยมีการกลั่นแกล้งด้วยการบรรทุกๆอย่างลงใน GS หมด (อืม...บ้า long way down ดีนัก 555)จริงๆแล้วตอนแรกกะว่าจะขี่GSในทริปนี้ ก่อนออกนอกเมืองก็บอกว่าของเยอะ พอออกนอกเมืองแล้วก็บอกว่ารถยังเยอะอยู่เลย สุดท้ายก็บอกว่าของหนักไม่ขี่แล้ว 555


ร้านกาแฟน่ารักๆ ที่สามารถจอดรถแวะชมวิวสวยๆ ระหว่างทางจากเพชรบูรณ์เมืองมะขามหวาน มุ่งหน้าสู่พิษณุโลก พร้อมกับเป็นการ “พักก้น”ซักนิดหน่อย ตั้งใจจะกลับไปเยือนภูหินร่องกล้า ที่เคยไปมาเมื่อตอนค่ายวิทยาศาสตร์สมัยมัธยมต้น(นานมาก) ด้วยความที่นอนกันน้อยมากทั้งสองคน ช่วงแรกของการขี่ผ่านถนนพหลโยธิน(1)ผ่านสระบุรีมุ่งหน้าเข้าลพบุรี(21)ทางตรงแหน่วจึงออกแนวง่วงๆ ช้าๆ บวกกับอากาศที่เริ่มร้อนแล้ว จากที่ยังเย็นๆ ร้อนซะงั้น เหมือนปิดสวิทซ์เลย ก็เลยขี่เรื่อยๆ มุ่งตรงอย่างเดียวเข้าสู่เพชรบูร์ณราวเที่ยง แวะกินของว่าเที่ยวที่ coffee hill (บนถนน 12)


เดินทางต่อสู่ภูหินร่องกล้า ซึ่งสามารถเดินทางเข้าได้ 2 ทาง แต่ตัดสินใจเข้าทางถนนหมายเลย 12 แล้วเข้าสู่ 2013 แทนการเข้าทางทับเบิก (2331) เพราะกลัวว่าทางจะแย่เกินกว่า FZ1 จะรับไหว


เริ่มขึ้นภูก็เริ่มครึ้มเหมือนฝนจะตกเลย ใจก็ตุ้มๆต่อมๆ ถึง ลานหินแตก ก่อนเป็นจุดแรกที่แวะเที่ยวราวบ่ายสองกว่าๆ ความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์บรรจงสร้างทำให้อดคิดถึงความยิ่งใหญ่ที่มนุษย์ตัวน้อยๆอย่างเราไม่มีวันเทียบได้


จุดที่ยังไงก็ต้องไปนั่นคือ ลานหินปุ่ม เพราะจำได้ว่ามันสวยมาก แต่...แม่เจ้าต้องเดินอีกตั้งกิโลกว่า ขี่มาตั้งไกล...ต้องเดินอีก แต่ก็นะมาแล้วนี่นา แต่พอถึง...คุณจะรู้ว่ามันคุ้มมาก


กว่าจะเดินกลับมาก็ปาเข้าไป 16:00PM เหงื่อตก หาน้ำกินมะได้เลย (ไม่ได้พกไปซักขวด) จริงๆแล้วแผนคือเข้าไปกินข้าวกลางวันกับ biker ชาวพิษณุโลก แต่ก็เลทไปเยอะ เมื่อติดต่อไปก็เป็นอันว่ายังรอเจออยู่ เราจึงไปนัดไปกินข้าวกันที่ Resort rain forest ขอขอบคุณเพื่อน biker ชาวพิษณุโลกที่อุตสาห์รอกินข้าวด้วย จะแย่งกันเลี้ยงข้าว และขี่ไปส่งยังถนนเส้นทางต่อไปสุโขทัย


สภาพเส้นทางถนนหมายเลย 21 ซึ่งมีโค้งสวยๆ พอสมควร แต่ถนนจะดูแห้งๆ ลื่นๆ (ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า เอิ้กๆๆ)


ระหว่างเส้นทาง เราสามารถพบเห็นวัดวาอารามณ์และปฏิมากรรมที่สวยงามได้ตลอด ชวนให้หยุดถ่ายรูปภาพยิ่งนัก แต่ถ้าขืนหยุดทุกวัดก็คงไม่ถึงที่หมายปลายทางเป็นแน่แท้


ภาพโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


คืนแรกตัดสินใจทำตามที่วางแผนไว้คือเข้ามานอนที่ตัวเมืองสุโขทัย กว่าจะถึงโรงแรมก็ปาเข้าไปสามทุ่ม เบ็ดเสร็จวันแรกขี่ไป 490KM เข้าพักที่โรงแรมไพลิน (ออกจากตัวเมืองมุ่งหน้าไปทางตาก) ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยที่เราจะไปลุยกันในเช้าวันรุ่งขึ้น


ภาพโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย


ความงามของโบราณสถานบ้านเรา ถึงแม้จะไม่ยิ่งใหญ่อลังการเท่าของชาติอื่นที่เคยได้สัมผัสมา แต่ก็ให้ความน่าทึ่งไม่น้อยเมื่อนึกไปถึงวิวัฒนาการในการก่อสร้างในยุคสมัยนั้นว่าทำได้อย่างไร


ภาพโบราณสถานในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย




60km ออกจากตัวเมือง มุ่งหน้าสู่อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยตามถนนสาย 101 ความต่างของสองอุทยานนี้คือสภาพภูมิทัศน์โอยรอบที่อันหลังร่มรื่นกว่ามาก


ปฏิมากรรมสวยๆ ภายในวัด แม้จะพบเห็นว่าถูกทำลายไปไม่น้อย แต่ก็ยังคงความงามให้เห็นได้อย่างชัดเจน


ภายในความเก่าแก่ แค่เพียงจีวรหนึ่งผืน ก็สามารถทำให้พระพุทธหนึ่งองค์ สวยงามโดดเด่นประดุจมีชีวิต


มุ่งหน้าสู่น่าน ตามเส้นทางหมายเลย 101 ผ่านแพร่ ช่วงที่เป็นรอยต่อจากสุโขทัยเข้าแพร่จัดว่าเป็นเส้นทางที่สวยเส้นหนึ่งทีเดียว ก่อนจากสุโขทัยเติมพลังด้วยก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย ความแตกต่างของมันก็คือ มันใส่ถั่วฝักยาวซอยๆ ลงไปด้วยค่ะ


ต่อเนื่องจากภาพที่แล้ว โค้งสวย เส้นทางที่ดูร่มรื่น แต่ทางที่ผ่านจากแพร่เข้าสู่น่านนี่สิคะ แถวๆ อ.ร้องกวาง โค้งสวยจริงๆ ทางดีมากๆ แต่รถบรรทุกร่วมทางแย่โคตร แซงที่หัวใจจะวาย ไหนจะกินเลนส์แล้วยังขับเร็วอีก กลัวว่ามันจะเบรกแตก รึไม่ก็ท้ายปัดมากวาดเราไปนี่ก็จบกันเหมือนกัน เฮ้อ...กลุ้ม ก็เลยไม่มีรูปเส้นทางนี้มาให้ได้ดูกันนะคะ


ขี่ผ่านทางเข้าพระธาตุแช่แห้ง แต่ก็ไม่ได้แวะเข้าไป เพราะเริ่มจะมืด (ราวๆสี่โมงกว่า) จากรูปในหนังสือสวยมาก สงสัยต้องหาทางไปซ้ำ คืนที่สองนี้ เรานอนที่ตัวเมืองน่าน พักโรงแรมเทวราช จากการถามชาวบ้านในจังหวัดได้แนะนำโรงแรมนี้เหมือนกันถึงหลายคน วันที่สองสิ้นสุดการขี่รถด้วยระยะทาง 390km. หุหุ..ยังไม่ค่อยอยู่ตัว จัดว่าเหนื่อยเอาเรื่อง กินข้าวเสร็จก็งีบหลับไปตั้งแต่ยังไม่สามทุ่ม 555


คิดว่าคนที่คิดถังติดรถมอเตอร์ไซด์ น่าจะได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เห็นได้รอบตัวเช่นนี้ วันนี้ตื่นแต่เช้า (ที่จริงก็ไม่เช้าเท่าไหร่ ซัก 8โมงกว่าได้) ออกไปหาอะไรกินที่ตลาดฝั่งตรงข้ามโรงแรม แต่...สายไป ตลาดวายแล้ว สรุปหาโจ็กกินไม่ได้ (โรงแรมเค้ามีคูปองอาหารเช้าให้นะคะ เด๋วจะเข้าใจผิด และก็ที่จอดรถดีมาก)

การเดินทางผ่านไปได้ครึ่งทางแล้ว...แต่เพื่อไม่ให้เป็นการลำบากในการโหลดเพื่อติดตาม ขอต่อตอนที่สองใน blog ถัดไป อย่าลืมตามไปอ่านกันนะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น