เราขี่ไปถึงจันทบุรีก็ราวเที่ยง กินข้าวเสร็จก็ยังไม่บ่ายโมงดี งัดเอา GPS garmin nuvi 205 ออกมากดดู อืม...อีกแค่สองร้อยกว่าโลเท่านั้น ว่าแล้วก็เริ่มตล่อมเพื่อนรักว่าไปเกาะช้างเหอะ ใกล้แค่นี้เอง ...แล้วเพื่อนรักก็หลวมตัวตกลง
ในที่สุดเราก็ถึงท่าเรือเฟอรี่ไปเกาะช้างราวสีโมงเย็น ระหว่างทาง...เพื่อนด่ากระจายว่า ไกลมาก...แกพาชั้นมาทำไมเนี่ย กว่าเรือจะถึงเกาะช้างก็เกือบหกโมง เมื่อลงที่ท่าเกาะช้างแล้ว ถามทางชาวบ้านเค้าบอกว่าไปทางขวามีเขาสูง แต่ในความทรงจำอันเลือนลาง...น่าจะถึงหาดที่มีร้านอาหารกับที่พักเยอะก่อน ก็เลยลากเพื่อนไปทางขวา ผลคือ...ขึ้นเขาทั้งสูง ชัน และหักศอกในเวลาโพล้ พอถึงที่พัก...คราวนี้เพื่อนโกรธเลย แถมด่ากระจายอีกด้วย 555 แล้วก็เรียกร้องหาหมอนวด บอกว่าเมื่อยมาก รวมระยะทางราว 300km กับสภาพรถสปอร์ตก็นับว่าโหดอยู่ คืนนี้หลังหม่ำข้าวก็เลยนัดให้หมอนวดมานวดไทยกันถึงที่ นวดเสร็จก็หลับเป็นตายเลย
เรารีบออกจากเกาะช้างราวสิบโมง กว่าจะถึงฝั่งก็เที่ยง ต้องรีบทำเวลา...เหมือนเคยต้องกลับมาทำงานต่อตอนสองทุ่ม ด้วยความที่พก GPS ไปด้วย ก็นะ...ซะหน่อย เบื่อหนทางเดิม เลยเข้าเลี่ยงเมืองตั้งแต่จันทบุรีคิดว่าจะมีทางหลักตัดเข้ามาได้ ปรากฎไม่มี แต่มันก็นำทางลัดมาตามทางสองเลนสวน จริงๆแล้วต้องบอกว่าได้เจอเส้นทางสวยๆ ซึ่งทำให้เราชอบมาก ติดใจอารมณ์นี้แบบมากๆ แต่ก็เช่นเคยเพื่อนเลิฟสุดรักออกแนวอนุรักษณ์นิยมก็หงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเส้นทางไม่คุ้นเคย ถึงพัทยาราวห้าโมงเย็นได้ นั่งปล่อยอารมณ์พักเหนื่อยแป๊บนึง จึงบึ่งเข้ากรุงเทพพร้อมกับความสุขเต็มเปี่ยมในหัวใจ
คำถามที่ได้รับคำตอบ...ว่าเทใจสู่ความเป็นชาวสองล้อเต็มตัวแล้วเรา
แหมคุณหมอมาเขียนบล็อกอยู่นี่เอง ว่าง ๆ ไปเที่ยวกันไหมคะ
ตอบลบ