วันพฤหัสบดีที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2552

ควบสองล้อ...ฝ่าสายฝน มุ่งหน้าสู่พัทยา ทริปอำลาหนูดี

ทริปนี้จัดเป็นทริปอำลาหนูดี...ก่อนที่เราต้องจากกัน

เริ่มต้นด้วยมีพี่สาวใจดีคนหนึ่งให้ยืม Er-6n มาลอง แถมใจดีมาก จอดอยู่ที่บ้านจะเดือนแล้ว ยังไม่มีเวลาว่างตรงกันซักที ก็เลยนัดกับเพื่อนสาวสุดเลิฟ(คนเดิม)
"เฮ้ย...ไปขี่รถเล่นกัน" ฉันชวน
เพื่อนตอบ "กำลังอยากอยู่พอดี จัดมาเลยเพื่อน ไปไหนไปกัน"
ฉันตอบ... ในคิดแบบลิงโลด "งั้นไปเขาใหญ่ละกัน ขอบิดมันมันส์ ยาวๆ ซะหน่อย โอ...ป่าว ขึ้นทางปราจีน ลงทางปากช่องนะ"
เพื่อนสาวพยักหน้า "ได้เลย..."

เช้าวันเสาร์ที่ 4 เมย. 52 เพื่อนสาวโทรปลุกแต่เช้า ตามคำขอร้องเมื่อคืน ตรงตามสั่งเป๊ะ งัวเงียด้วยความขี้เกียจ...อาบน้ำอาบท่า จนเพื่อนมาถึงประมาณเกือบเก้าโมง พร้อมๆกับใบหน้ากะลิ้มกะเหลี่ย "แกๆ ไปที่ๆมันใกล้กว่านี้ได้ป่าววะ กลัวไม่ไหวอ่ะ นะๆๆๆ"
เราก็เลยเซ็งเล็กน้อย...นึกๆ เอาไงดี ไปไหนดีวะ ที่ๆมีเขาให้เล่น พร้อมกับกางแผนที่ เสียงเพื่อนยังสำทับมาอีกว่า "ถ้าไปไกลๆ แล้วฉันขับไม่ไหว จะกลับไงลองนึกดูเองนะแก" ฉันตอบ "เออ รู้แล้ว ไม่ไปก็ไม่ไป ไม่ต้องย้ำ มีแต่เขาเขียวอ่ะ ไปป่าวล่ะ" เพื่อนตอบ "เอานี่ละ...เขาๆเหมือนกัน น่าจะมีอะไรที่สวยๆให้ขี่มั่งล่ะ" สุดท้ายจุดหมายปลายทางกลายเป็นเขาเขียวไปซะงั้น

ออกเดินทางได้ สองคันสองคนกับพาหนะคู่ใจในทริปนี้คือ D-tracker และ Er-6n ขอเรียกว่าหนูดีและน้องส้มละกัน (ปล.อย่าดูวันที่ในภาพนะคะ ลืมเซ็ทกล้องน่ะ)


จากเขาใหญ่กลายเป็นเขาเขียว ขี่ไปถึงราวๆ 11 นาฬิกา ถึงช้าเพราะขี่กันไปแบบไม่เร่งรีบ (ไม่ได้แตะเกิน 130 เลย เพราะเพื่อนซี้ไม่ขี่เร็ว บอกว่าอันตราย ก็ต้องชะลอคอยเป็นระยะๆ) คิดว่าเหมือนสวนสัตว์เชียงใหม่ที่แบบว่าเดินไกลและก็ขึ้นๆลงๆเนินเขา แต่คิดผิดถนัด นอกจากไม่มีทางชันแล้ว ยังเต็มไปด้วยเด็กๆที่มาเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์อีก ...เอาเถอะ ไม่ได้มาสวนสัตว์มานาน ก็ดีเหมือนกัน คุณเพื่อนขี่ไปโลด ไอ้เราก็คอยชะเง้อดูนู่นดูนี่ ที่น่ารักเห็นจะเป็นคู่แฟนที่จูงมือกันมาขับรถกอล์ฟชมสวนสัตว์ เป็นอะไรที่ไม่เคยคิดว่าคู่หนุ่มสาวทำ (แบบว่าไม่เคยอยู่ในหัวเราเลย มาถ่ายรูปสัตว์ก็ว่าไป) แต่นี่ไม่ใช่ ก็แปลกแต่น่ารักดี ไหนๆก็ไหนๆ ก็จะเป็นทริปสุดท้ายกับหนูดีด้วยแล้ว เลยคิดจะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกซะหน่อย ก็เลยกลายเป็นผลัดกันขี่ผลัดกันถ่ายรูปซะอย่างนั้น ฮา.... มีรูปเพียบเลยทริปนี้ อิอิ

หน้าดำปี๋...ไม่รู้เลยว่าใครขี่




แก๊กท่าถ่ายรูปกันซะฉ่ำปอด จริงๆแล้วยังมีอีกเพียบเลย -_-'

ทริปนี้ใช้กล้องเพื่อน ของตัวเองก็เอาไปแต่ดันลืมใส่ SD card ซะนี่ เอาแบตไปตั้งสองก้อน

ชอบมาก หลักกิโลที่ศูนย์ เห็นเป็นต้องเข้าไปเก็บซักภาพ

ด้วยความที่คนในสวนสัตว์เยอะมาก เราจึงตัดสินใจจะไปกินข้าวที่พัทยา กะจะไปเยี่ยมร้านประจำที่เช่ารถด้วย เพราะตั้งแต่มีข่าวกวาดๆรถนี่ก็เป็นห่วงอยู่ เด๋วจะไม่มีรถให้เช่า...(ซะงั้น ห่วงจริงๆนะ) แต่ขี่ออกไปได้ซักพัก เห็นฝนเจ้ากรรมกำลังตกอยู่ข้างหน้าโน่น เลยแวะหาร้านแถวนั้น โชคดีที่มี เกือบบ่ายโมงแล้ว เลยตัดสินใจกินข้าวกันที่นี่แหละ ได้บรรยากาศไปอีกแบบ


ขณะจอดหลบฝน...มีรถขายของมาร่วมจอดหลบเต็มเลย

บรรยากาศ...ฟ้า...ฝน...คน ก็ เปียกอ่ะดิ

จริงๆ แล้วนี่เป็นครั้งแรกที่ขี่รถท่ามกลางสายฝน แต่ก็ไม่ได้หนักมาก พอฝนซาก็ถกกันว่าเอาไงดี แต่อีกแค่ 20 โลก็ถึงพัทยาแล้ว เอ้า...อย่าให้พลาดอีก จัดไป...ก็ไปพัทยาซิคะคุณ ถึงพัทยาราวสองโมงด้วยสภาพเปียกพอชื้นๆไม่ถึงกับแฉะ แวะไปทักทายร้านเช่ารถสมความตั้งใจ ไหนๆมาถึงทะเลทั้งที ก็แวะพักตรูดริมทะเลซักนิด

ฝนตกพรำๆตลอด แต่ยังไงก็เป็นทะเล

นั่งอยู่จนสามโมงสี่โมงเย็น โยกย้ายไปบางแสน ตอนแรกกะแค่ขี่รถเล่นชมหาดแค่นั้น แต่เผอิญไปขี่ขึ้นเขาสามมุข ก็เลยติดลมถ่ายรูปเล่นอีกซักหน่อย มีลิงเต็มเลย แต่ที่นี่นิสัยค่อนข้างน่ารัก

ทางสวยๆ แต่สั้น(มากๆ)

จุดชมวิว กับ วิวสวยๆ

เพื่อนรักสุดเลิฟ

แหลมแท่น

จากเขาสามมุก ขี่ลงมาร้านขายยำเจ้าประจำที่เพื่อนแนะนำมาชวนชิม บอกว่าพาใครมาก็ติดใจทั้งนั้น ถึงร้านอารมณ์เอกเขนกก็มาเกาะหนึบ จากที่ตั้งใจจะเข้ากรุงเทพเลย ไม่อยากให้มืด ก็อดใจไม่อยู่ นั่งกินซีฟูดกันซะเลย (ยำร้านอร่อยจริงๆ อยู่ตรงสามแยกเลียบหาด แยกเข้าแหลมแท่นนั่นแหละ แต่จำชื่อร้านไม่ได้...) ทริปนี้ได้มาในจุดที่ไม่ได้มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเขาเขียว เขาสามมุข หรือบางแสน

เพราะบางแสนทะเลไม่สวย ทำให้ไม่ได้สนใจเลย แต่วันนี้...รู้สึกว่าบางแสนช่างอบอุ่น บรรยากาศอบอวลไปด้วยไอรักจากครอบครัวต่างๆมากมายบริเวณริมหาด ได้เห็นความน่ารักของที่เล่นอยู่เด็กๆริมชายหาด (แต่ถ้าคนมากกว่านี้ อาจจะกลายเป็นร้อนจนละลายก็เป็นได้) เป็นความพลุกพล่านแบบน่ารักไปอีกแบบ เพลินตาดีเหมือนกัน



ขากลับสลับกัน จากขี่ Er-6n กลับมาควบหนูดีของเราเหมือนเดิม เพราะความที่หนูดีรถเบา ก็เลยร่อนไปร่อนมา...มันส์ไปอีกแบบ แต่น้องส้ม (Er-6n) เป็นเครื่องสองสูบที่มีความสั่นสะเทือนสูง จนจัดว่าสูงมาก เพราะขี่แป๊บๆก็จะรู้สึกมือชาตลอด เหมือนตอนขี่ BMW R1200GS ซึ่งตัวหลังนี่ขึ้นชื่อว่าสั่นมาก เพราะขี่รถตัวอื่นๆไม่เคยมือชา มีแต่น้องส้มกับพี่ BMW นี่ล่ะ แถมความเป็นรถเปลือย (Nake bike) ด้วยแล้ว ลมซิครับท่าน...ปะทะตัวเต็มๆ อัดได้ 190 ก็แทบจะปลิวตกรถ เรียกว่าเมื่อไหร่ที่อยากบิดก็ต้องเตรียมตัวหนีบถังกันดีๆ ไม่งั้นอาจจะร่วงไปโดยไม่รู้ตัว เห็นว่าบิดหมดปลอกได้ 215 ซึ่งก็ถือว่าดีมากๆแล้วสำหรับรถราคานี้

กว่าจะกลับถึงบ้านปาเข้าไปสามทุ่มกว่า ตามเดิม...คุณเพื่อนเขาช้าๆ แต่ปลอดภัย จบทริปอำลาหนูดีด้วยความสุขและประทับใจ

เราคงไม่ได้ร่วมทริปกันอีกแล้วนะ...หนูดีจ๋า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น